วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ต้มซี่โครงหมู ใบชะมวง


ส่วนผสม
กระดูกหมู                          500   กรัม
ใบฃะมวง                           8-10 ใบ
หอมแดงทุบ                        3      หัว
กระเทียม                           2-3   กลีบ
ตะไคร้ทุบ                           2      ต้น        
ข่าหั่นแว่น                          1 ½   ช้อนโต๊ะ
เกลือ                                3      ช้อนชา
น้ำสะอาด
วิธีทำ
1. ล้างใบชะมวงให้สะอาด  ฉีกเส้นกลางออกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ใส่น้ำลงในหม้อ  นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด  แล้วใส่กระดูกหมูต้มจนกระดูกหมูสุก
3. ใส่  ข่า ตะไคร้  หอมแดง  กระเทียม  และเกลือ
4.  เคี่ยวจนกระดูกหมูเปื่อย  หมั่นตักฟองออกทิ้ง
5.  เมื่อกระดูกหมูเปื่อยได้ที่  ใส่ใบชะมวงลงไปเคี่ยวต่อสักพัก  ชิมรสชาติออกเปรี้ยวดีแล้ว 

     ยกลงตักเสิร์ฟ               
         

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

น้ำพริกมะม่วง



ส่วนผสม
พริกขี้หนู  (ปริมาณตามชอบ)
น้ำตาลปี๊บ                                             1 ½  ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                                                   1      ช้อนโต๊ะ
กระเทียม                                              3-4     กลีบ
กุ้งแห้ง                                                    2      ช้อนโต๊ะ
กะปิ                                                        1      ช้อนโต๊ะ
มะม่วงเปรี้ยวสับ   (มะม่วงเบา)                 1      ลูก
วิธีทำ
1. นำกะปิไปย่างไฟให้หอม
2. ตำกุ้งแห้งให้ละเอียดใส่กระเทียม พริกขี้หนูลงไปตำพอแหลก
3.  ใส่กะปิเผาลงไป  ตามด้วยน้ำตาลปี๊บแล้วตำต่อให้ส่วนผสมเข้ากัน
4.  ใส่มะม่วงสับลงโขลกพอแหละ  ชิมรสตามชอบใจ  ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมผักสด


วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หมูทอดน้ำปลา




ส่วนผสม
หมูสามชั้น                      ½      กิโลกรัม
น้ำปลาอย่างดี                 3-4    ช้อนโต๊ะ 
พริกไทยป่น                 1      ช้อนชา
ไข่ไก่                           1       ฟอง
แป้งอเนกประสงค์             3      ช้อนโต๊ะ 
น้ำเย็น 
น้ำมันสำหรับทอด
น้ำส้มสายชู                     1      ช้อนโต๊ะ
เกลือเล็กน้อย


วิธีทำ
1. ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วชิ้นหมู
2. หมักหมูโดยใส่น้ำปลา พริกไทยป่น ไข่ไก่ และแป้งอเนกประสงค์ จากนั้นเติมน้ำเย็นลงไป แล้วค่อย ๆ นวดจนเข้ากันประมาณ 5 นาที จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
3. ใส่เกลือลงในกระทะ (กันหมูติดกระทะ) รอจนร้อนเติมน้ำมัน ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำมัน (เพื่อหมูจะไม่อมน้ำมัน) ใช้ไฟค่อนข้างแรง จากนั้นนำหมูลงทอด โดยทอดทีละข้างให้เกรียมจนเนื้อหมูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ เสิร์ฟ พร้อมกับน้ำจิ้มแจ่ว

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผักเหลียงผัดไข่


"ผักเหลียง"หรือเรียกว่า "ผักเหมียง"  เป็นพืชยืนต้นที่มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-2 เมตร มีใบเรียวยาว สามารถนำยอดของผักเหลียงมารับประทานได้ แต่ต้องทำให้สุกก่อน โดยนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผัดผักเหลียงใส่ไข่ แกงเลียงผักเหลียงใส่กุ้ง นำมาต้มกะทิ ใช้รองห่อหมก หรือลวกจิ้มน้ำพริก ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานมากของชาวภาคใต้  ลักษณะของผักเหลียงที่อร่อย ให้เลือกใบที่เป็นเพสลาด คือไม่อ่อนหรือไม่แก่จนเกินไป ใบจะออกรสมันและหวานนิดๆ
ส่วนผสม
ใบเหลียง               1  มัด
ไข่ไก่                    2 ฟอง

กระเทียมสับ            1  ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาดี                2 ช้อนชา
น้ำมันพืช               2  ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม         2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย            1  ช้อนชา
น้ำเปล่า        
        ½ ถ้วย

วิธีทำ
1. เด็ดใบเหลียงเอาเฉพาะใบกลางและอ่อน ส่วนใบแก่เขียวเข้มเด็ดทิ้งไป ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้
2. ตีไข่แค่พอไข่แดงแตก ปรุงรสด้วยน้ำปลา
3.ใส่น้ำมันในกระทะ จนร้อน ใส่กระเทียมเจียวจนเหลืองหอง เทใบเหลียงลงไป เร่งไฟแรง ให้ใบโดนความร้อนจนสุกค่อยผัดพลิกด้าน
4. พอใบเหลียงสุกทั่ว หรี่ไฟลง ปรุงรสด้วยน้ำปลา  ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ผัดให้ทั่ว เทไข่ลงไป พอไข่สุกก็ผัดพลิกด้าน เติมน้ำเปล่าลงไป ก่อนตักขึ้นคนให้เข้ากัน

ผักเหลียงอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่ต้องถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ทั้งยังเป็นสารตั้งต้นสร้างวิตามินเออีกด้วย 

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ยำปลาหมึกสด


 
ส่วนผสม
ปลาหมึก                300  กรัม
หอมใหญ่หั่นหยาบ       ½  หัว
มะเขือเทศหั่นเสี้ยว       1    ลูก
น้ำมะนาว               3    ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                  2    ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย            1     ช้อนชา
พริกขี้หนูตำพอแหลก 5-6   เม็ด
ต้นหอมหั่น              1    ต้น
ผักกาดหอม            2-3   ใบ

 
วิธีทำ
1. ล้างปลาหมึกให้สะอาด  ลอกดำออกให้หมด บั้งให้มีลวดลาย
2. เอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟรอให้เดือดใส่ปลาหมึกลงไปลวกจนสุก
3. ผสมน้ำยำ  น้ำมะนาว น้ำปลา  น้ำตาลทรายและพริกขี้หนูตำพอแหลกเข้าด้วยกัน
4. นำปลาหมึกที่ลวกแล้ว  หอมใหญ่  และมะเขือเทศคลุกเคล้าในน้ำยำ  ให้มีรสเปรี้ยวนำ
    ตามด้วยรสเค็ม
5. จัดใส่จานรองด้วยผักกาดหอม  แต่งหน้าด้วยต้นหอม
 

 

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ต้มแซบกระดูกอ่อน


ส่วนผสม
กระดูกอ่อนหมู                  300  กรัม
ข่าหั่นแว่น                      6-7   แว่น
หอมแดงทุบ                    3-4   หัว
ตะไคร้หั่นเฉียง                   2    ต้น
มะเขือเทศ                       1    ลูก
น้ำปลา                          1    ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก                   2   ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว                      1-2   ลูก
พริกแห้งคั่ว                     3    เม็ด
น้ำตาลทราย                    1    ช้อนโต๊ะ
พริกป่น                         2   ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา                     ½    ถ้วยตวง
ผักชีฝรั่งซอย                    1    ต้น
ใบมะกรูดฉีก                   2-3   ใบ
เกลือ                           1    ช้อนชา

วิธีทำ

1. ใส่น้ำลงในหม้อ  นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด  ใส่เกลือและกระดูกหมูอ่อนลงเคี่ยวจนกระดูกหมูเปื่อย  (หมั่นช้อนฟองออก  เพื่อให้น้ำซุปใส)
2. ใส่ข่า ตะไคร้ มะเขือเทศ และใบมะกรูด พอได้กลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากันดี ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม เติมน้ำมะนาว พริกป่น และผักชีฝรั่ง ชิมรสตามชอบ โรยด้วยใบโหระพา พร้อมรับประทาน



ลาบปลาดุก


ส่วนผสม

1. ปลาดุกอุย                      ตัว
2.
ต้นหอมซอย                    ต้น
3.
สะระแหน่เด็ดเป็นใบ         1/2   ถ้วย
4.
หอมแดงซอย                    ช้อนโต๊ะ
5.
ข่าหั่นฝอย                       ช้อนชา
6.
ใบมะกรูดหั่นฝอย                ช้อนชา
7.
พริกป่น                      1    ช้อนโต๊ะ
8.
ข้าวคั่วป่น                    2    ช้อนโต๊ะ
9.
น้ำปลา                      2    ช้อนโต๊ะ
10.
น้ำมะนาว                  2-3   ช้อนโต๊ะ

 
วิธีทำ
1ปลาดุกย่างลอกหนังออก แกะเอาแต่เนื้อ สับละเอียด
2.
เคล้าเนื้อปลาดุกกับข้าวคั่ว พริกป่น ข่า หอมแดง ใบมะกรูด
3.
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว โรยใบสะระแหน่ ต้นหอม จัดใส่จาน รับประทานกับผักสด เช่น กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ใบโหระพา